วันนี้แอดมาชวนคุยถึง Technology ที่จะมา adoption
หรือ เป็นกระดูกสันหลังในการขับเคลื่อนให้เรือของเรา เป็น SmartShip ได้ครับผม
1. Artificial Intelligence
อย่างที่ทราบกันดีว่า AI จะครองโลก 555 พูดเล่นนะครับ
เห็นไปที่ไหนไม่ว่าวงการอะไรหรืออุตสาหกรรมใดก็ใช้ AI กันทั้งนั้น
เพราะช่วยในการตัดสินใจ วิเคราะห์ข้อมูล และเร่งกระบวนการต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น
หรือที่เราเรียกว่า optimize กระบวนการทำงานให้รัดกุมรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
ที่สำคัญอาจจะช่วยลดต้นทุนอะไรบางอย่างได้นะครับ Use case ที่น่าสนใจเช่น
อย่างที่ทราบกันดีว่าปัจจุบันมีตู้สินค้า Container ถูกขนส่งผ่านท่าเรือ จำนวนมากมายในแต่ละวัน
บางตู้สินค้ามีความจำเป็นต้องขนส่งอย่างเร่งด่วน หรือบางตู้มีความจำเป็นน้อยกว่า
AI มีความสามารถในการจำแนกและแยกความแตกต่างของตู้สินค้าตามระยะเวลาในการจัดส่ง
ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญมาก Use case นี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าสินค้าที่มีความต้องการเร่งด่วน
จะได้รับการจัดลำดับความสำคัญเหนือรายการอื่นๆ และจะถูก load ลงในเรือคอนเทนเนอร์
ให้ไปถึงปลายทางโดยเร็วที่สุด
ตรงนี้จะเห็นได้ว่ากระบวนการขนส่งสินค้าได้รับการ optimize ให้ดีขึ้น
การจัดการตู้ที่ดีขึ้นทำให้ค่าเฉลี่ยการขนส่งตู้เปล่าจาก 30-40% ลดลงเหลือ 15-20%
ถือเป็นการบริหารตู้ได้ดีขึ้น
ระบบ AI ผ่านกล้อง CCTV ที่ช่วยในการเข้ายามเรือเดินได้ อาทิเช่น
การตรวจจำนวนคนเข้ายามบนสะพานเดินเรือและแจ้งเตือน
เมื่อจำนวนคนไม่ครบตามที่ได้กำหนดไว้ หรือการตรวจจับการเคลื่อนไหวบนสะพานเดินเรือ
กระบวนการเหล่านี้ให้ผลลัพธ์คล้ายกับ Dead Man Alarm ที่ต้องการทราบถึง
ความพร้อมของการปฏิบัติงานบนสะพานเดินเรือ เพียงแต่การใช้กล้อง CCTV นั้น
สามารถส่งผ่านข้อมูลการ Monitor มาที่ฝั่งได้
คราวนี้ Supt. เห็นหมดนะ แต่อย่ามองว่าเป็นการจับผิดเลย
เป็นการช่วยการดูแลรักษาความปลอดภัยร่วมกันมากกว่า เรือปลอดภัย คนก็ปลอดภัย
อุบัติเหตุไม่เกิด ได้กลับมาหาครอบครัวที่เรารักได้
2. Big Data Analytic
เป็นที่ทราบกันดีว่าในหนึ่งวันมนุษย์เราสร้างข้อมูลในแต่ละวัน
เข้าระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นจำนวนมาก และถ้ามองไปถึงการใช้งาน Internet
พบว่าคนไทยใช้งาน Internet เฉลี่ยวันละ 10 ชั่วโมง 36 นาที / วัน ในปี 2564
มุมมองตรงนี้แอดมองว่า ไม่ว่าชีวิตประจำวันเราจะดำเนินไปอย่างไร
เราได้สร้างฐานข้อมูลเข้าระบบอันทันสมัยไปโดยไม่รู้ตัว
ถ้าจะให้เห็นภาพก็เช่น ประวัติการเข้าออก website และ platform ecommerce ต่าง ๆ
หรือ แม้กระทั่งนาฬิกา smart watch ที่ท่านสวมใส่กัน ก็ได้สร้างฐานข้อมูลทางสุขภาพมากมาย
หรือแม้แต่พฤติกรรมการใช้งานโทรศัพท์ ข้อมูลเหล่านี้ถ้ามากก็จะกลายเป็น data ขนาดใหญ่
แต่ถ้ามากอย่างเดียวมันคงไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร มันถึงต้องเอามาวิเคราะห์
ตรงนี้ Big Data Analytic ถึงได้เกิดขึ้นมา จากที่แอดฯ เล่ามาคงพอเห็นภาพแล้วใช่ไหมว่า
ถ้าเป็นวงการเรือของเราหละ? ข้อมูลที่เกิดขึ้นทุกวัน ถ้าเอามาวิเคราะห์ได้
มันจะช่วยในเรื่องการปฏิบัติงานในทะเลได้ดีแค่ไหน
Use case ที่ใช้กันก็อาทิเช่น การติด Sensor ไว้ที่เครื่องจักรบนเรือ
แล้วส่งค่าต่าง ๆ ขึ้นมาบนบกเพื่อใช้ทำนายการบำรุงรักษา หรือซ่อมทำ
การคำนวณอัตราการใช้น้ำมัน และถ้าไปติดไว้บนอุปกรณ์เดินเรือ
ก็อาจช่วยเรื่อง Route voyage optimization ได้ครับ เช่นเส้นทางเดินเรือไหนที่ประหยัดเชื้อเพลิง
รวมไปถึงการควบคุมการปล่อยก๊าซคาร์บอนซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ของ IMO
ข้อมูลเยอะและสำคัญขนาดไหน platform ระบบ IOT ที่เก็บข้อมูล มาวิเคราะห์ยิ่งสำคัญมากว่า
ลองดูบทความเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยก๊าซคาร์บอนดังนี้ครับ
>>> ใครว่าคาร์บอนทำโลกร้อนได้อย่างเดียว? <<<
>>> นักวิจัยแนะ ลดก๊าซ CO2 ที่ดีที่สุดคือลดจากเรือเก่า <<<
>>> FASTWATER โปรเจกต์รวมพลังพิทักษ์โลก <<<
>>> IMO 2020 : MARPOL ANNEX VI ความท้าทายด้านสิ่งเเวดล้อม <<<
3. IOT technology
จากที่เล่าให้ฟังในข้อที่ 2 เรื่อง การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่แล้ว
พระเอกสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ Technology IOT ที่จะเก็บข้อมูลส่งผ่าน Internet
มาวิเคราะห์บน platform ต่าง ๆ Sensor ที่นำไปติดตั้งนั้นต้องมีความเที่ยงตรง
และมีประสิทธิภาพน่าเชื่อถือที่เพียงพอ ไม่งั้นข้อมูลจะนำไปใช้ได้ไม่เกิดประสิทธิผล
4. Sattellite Internet
หรือที่เพื่อน ๆ คุ้นกันดีคือ Internet ผ่านดาวเทียว นั่นเอง
อันนี้คุ้นไหมครับ ก็ Internet ของ ShipExpert ไงครับ 555
ถ้าไม่มี Internet ก็จบเลยครับ ที่จะส่งผ่านข้อมูลมาบนฝั่งเพื่อใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
5. Autonomous Control
อันนี้ล้ำมากครับ แต่แอดคิดว่าคงอีกไกลโพ้นกว่าเทคโนโลยีจะ adopt ไปได้
คงต้องมีการศึกษาวิจัย เพราะเกี่ยวพันกับเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก
กล่าวคือถ้าเปรียบกับบนฝั่งเพื่อน ๆ คงเคยได้ยินเรื่องรถไร้คนขับแล้วใช่ไหมครับ
เราแค่เข้าไปนั่งไม่ต้องขับเอง ระบบจะตัดสินใจให้เอง ไปตามเส้นทางที่เราต้องการ
มีระบบตรวจจับอัฉริยะต่าง ๆ มากมาย เทคโนโลยีบนบกคงเกิดก่อนเป็นแน่
ส่วนในทะเลหรืออุตสาหกรรมการเดินเรือ การนำระบบควบคุมอัตโนมัติมาใช้
คงยังคงต้องใช้เวลาพัฒนาครับ เนื่องจากเรือมีขนาดใหญ่และซับซ้อนกว่ารถยนต์มาก
6. แว่น AR
เทคโนโลยี AR กำลังเข้ามาปฏิวัติในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ไม่เว้นแต่วงการ Maritime ของเรา
Use case ที่นำมาใช้ อาทิเช่น การฝึกอบรมต่าง ๆ ของคนประจำเรือ
การบำรุงรักษาและการตรวจสอบเรืออย่างมีประสิทธิภาพ
โดยอุปกรณ์สวมใส่ AR จะสามารถส่งภาพและเสียงกลับไปที่บนฝั่ง
เพื่อให้ช่างผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาในระยะไกลโดยไม่ต้องขึ้นไปบนเรือได้ครับ
-------------------------------------------------------------------------------------------------
บทความโดย
Mr. Horizontal
Refer
https://www.marineinsight.com/know-more/10-smart-ship-technologies-that-maritime-industry/
https://www.etda.or.th/th/pr-news/ETDA-released-IUB-2021.aspx
https://www.imo.org/en/MediaCentre/HotTopics/Pages/Reducing-greenhouse-gas-emissions-from-ships.aspx