“อู่ต่อเรือฟันฝ่าท้องทะเลปั่นป่วน” (Shipbuilding Faces Uncertain Waters) บทวิเคราะห์เข้มข้นจากคนในเพื่อคนใน
ตั้งแต่เกิดการระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ เรือสำราญทั่วโลกที่ต้องหยุดการเดินทางและการขนส่งทางเรือที่ลดลงสร้างผลกระทบลามไปทั่วทุกภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอุตสาหกรรมการต่อเรือก็หนีไม่พ้น ตอนนี้พบว่าบริษัทอู่ต่อเรือหลายแห่งประสบความยากลำบากในการรักษาธุรกิจ ขณะเดียวกันก็รู้สึกคลางแคลงกับมาตรการต่าง ๆ ที่กำลังใช้รับมือกับวิกฤตการณ์ของโลกนี้
บรรดาอู่ต่อเรือที่รับงานจากกองทัพเรือถูกมองว่าเป็น “ธุรกิจจำเป็นพื้นฐาน” จึงได้รับการงดเว้นจากข้อปฏิบัติความปลอดภัยสาธารณะ ยกตัวอย่างเช่น อู่เรือ Newport News Shipbuilding ที่ตอนนี้ทำงานภายใต้กฎการทำงานใหม่ นโยบายการลาพักแบบผ่อนคลาย การเปลี่ยนกะแบบยืดหยุ่น และการทำงานที่บ้าน ที่อู่เรือ Ingalls Shipbuilding ในเมือง Pascagoula รัฐ Mississippi เองก็ทำงานภายใต้สภาพที่คล้าย ๆ กันนี้ แต่ที่รัฐ Maine อู่เรือ Bath Iron Works ถูกสั่งให้หยุดการทำงานทุกอย่าง
ข้ามไปดูที่อื่น ๆ บนโลกกันบ้าง ชะตากรรมของอู่ต่อเรือขึ้นอยู่กับระดับความเข้มข้นของการต่อสู้กับไวรัสในแต่ละประเทศ อู่เรือ Fincantieri หยุดงานทุกอย่างในไซต์งานที่อิตาลีตั้งแต่วันที่ 16-29/03/2020 อู่เรือ Navantia ในสเปนลดการทำงานลงและขอให้พนักงานธุรการและคนทำงานออฟฟิศอื่น ๆ ทำงานอยู่บ้าน อู่เรือ Chantiers de l'Atlantique ในฝรั่งเศสลดจำนวนงานมาตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม โดยเหลือเพียงงานธุรการซะส่วนใหญ่ ซึ่งก็ให้ทำงานจากที่บ้านเช่นกัน แต่ยังมีรายงานว่าอู่เรือ Meyer Werft ในเยอรมนียังคงดำเนินงานกันต่อภายใต้มาตรการข้อห้ามและการป้องกัน
เมื่อไวรัสยังสร้างผลกระทบให้กับระบบเศรษฐกิจโลกต่อไป อุตสาหกรรมต่อเรือสินค้าเองก็ไม่พ้นได้รับผลจากความไม่แน่นอนครั้งใหญ่นี้ บริษัทขนส่งทางเรือได้ยกเลิกการเดินเรือเพราะเผชิญกับการลดลงของสินค้าเป็นอย่างมาก และยิ่งวิกฤตครั้งนี้ยาวนานมากขึ้นเท่าไร โปรเจกต์ต่อเรือใหม่ ๆ ก็ยิ่งได้รับผลกระทบ
ไลน์เรือสำราญมักจองคิวกันจนเต็มสมุดงานของอู่ต่อเรือ แต่หลังมีการยกเลิกการเดินทางจำนวนมากจึงจำต้องยกเลิกการจ้างต่อเรือเพื่อลดภาระรายจ่ายทรัพย์สินที่เกือบชนเพดาน บริษัท Royal Caribbean Cruises แถลงกับนักลงทุนเมื่อวันที่ 10/03/2020 ว่า “บริษัทกำลังทำทุกวิถีทางเพื่อให้เกิดสภาพคล่องมากขึ้นโดยลดภาระรายจ่ายทรัพย์สิน รายจ่ายการดำเนินงาน และยังดำเนินมาตรการอื่นอีกเพื่อสร้างสภาพคล่องอีกอย่างน้อย 1.7 พันล้านดอลลาร์ในปี 2020 นอกจากนั้น บริษัทยังวางแผนลดภาระรายจ่ายทรัพย์สินและรายจ่ายการดำเนินงานปี 2021 ต่ออีก” ด้านบริษัท Carnival Corporation & PLC บอกกับนักลงทุนว่ากำลังพยายามลดภาระรายจ่ายทรัพย์สินและต้นทุน และบริษัทคาดว่า “ผลกระทบจากโควิด-19 ต่ออู่ต่อเรือที่บริษัทว่าจ้างจะทำให้เกิดความล่าช้าในการส่งมองเรือ”
ฝั่งบริษัทการเงินคาดหวังว่าบริษัทเรือสำราญจะตัดงบรายจ่ายทรัพย์สินอย่างรอบคอบ นางโรบิน ฟาร์ลีย์ (Robin Farley) นักวิเคราะห์จากวอลสตรีทกล่าวในรายงานเมื่อวันที 18/03/2020 โดยประเมินว่าบริษัท Carnival อาจตัดงบ 500 ล้านดอลลาร์ และบริษัท Royal Caribbean จะชะลอรายจ่ายทรัพย์สินราว 1.4 พันล้านดอลลาร์
การตัดงบส่วนใหญ่จะกระทบกับอู่ต่อเรือ ผู้รับเหมา และซัพพลายเออร์ ในขณะที่การรีโนเวทโรงแรมสามารถเลื่อนออกไปได้ แต่เรือบางลำยังต้องคงมีการทำงานทางเทคนิกหรือทำดรายด็อก (dry-dock) เอาไว้เพื่อให้ตรงตามข้อกำหนดของสมาคมคลาสเรือ บริษัท Royal Caribbean ระงับโปรเจกต์การซ่อมบำรุงมูลค่า 165 ล้านดอลลาร์ของเรือ Allure of the Seas ซึ่งมีกำหนดเริ่มงานที่อู่เรือ Navantia และโปรเจกต์มูลค่า 110 ล้านดอลลาร์ที่มีกำหนดทำกับเรือ Explore of the Seas ที่อู่เรือ Damen Shiprepair Brest บริษัท Celebrity Cruises ก็หยุดโปรเจกต์ใหญ่สำหรับเรือ Celebrity Cruises และ Celebrity Infinity บริษัท Norwegian Cruise Line ยกเลิกกำหนดทำดรายด็อกกับเรือ Pride of America และเรือ the Norwegian Epic บริษัท Oceania Cruises มีกำหนดทำโปรเจกต์รีโนเวทครั้งใหญ่กับเรือ Nautica ในเดือนมิถุนายน ซึ่งบริษัทออกมาบอกว่า “เรายังคงมีความหวังที่จะทำและยังต้องจับตาดูสถานการณ์ไปก่อน”
โปรเจกต์ยกเครื่องบางโปรเจกต์อาจต้องรอเดินงานต่อเมื่ออู่ต่อเรือกลับมาทำงานอีกครั้ง ตัวอย่างเช่น อู่เรือ Navantia ที่ได้เริ่มโปรเจกต์มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ในการดัดแปลงเรือ Carnival Triumph ให้กลายเป็น Carnival Radiance ก่อนหยุดงานไป และเนื่องจากความไม่แน่นอนของระยะเวลา บริษัท Carnival เริ่มปลดลูกเรือไปบ้างแล้ว และในทำนองเดียวกัน บริษัท Windstar Cruises กำลังทำโปรเจกต์ยืดความยาวเรือ Star Breeze และเพิ่งส่งเรือ Star Legend ซึ่งเป็นลำที่สองเข้าอู่เรือ Fincantieri ที่เมืองปาแลร์โม (Palermo)
บริษัทเรือสำราญหลายแห่งมีกำหนดรับเรือใหม่ในปี 2020 ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวมมากกว่า 8 พันล้านดอลลาร์ และยังมีรายการคำสั่งซื้ออีกกว่า 6 หมื่นล้านดอลลาาร์ในอีกตลอดเจ็ดปีข้างหน้า แม้ระยะเวลาการต่อเรืออาจถูกผลกระทบไปบ้าง “บริษัทเรือสำราญทุกแห่งใช้เงินกู้เครดิตส่งออกเมื่อสั่งต่อเรือ ดังนั้นจึงจะมีคิวยื่นขอเงินกู้ต่อเนื่องยาวเกินกว่าห้าปีข้างหน้า” ตามการวิเคราะห์ของนางโรบิน ฟาร์ลีย์ อย่างไรก็ตาม มีข่าวลือว่าบริษัทเรือสำราญหลายแห่งอาจหาหนทางเลื่อนโปรเจกต์ออกไปหรืออาจถึงขั้นขายสัญญาต่อเรือบางฉบับไปเลยก็เป็นได้
โปรเจกต์ต่อเรือที่ใกล้กำหนดส่งมอบได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน มีรายงานว่าเรือ Celebrity Apex ของบริษัท Celebrity Cruises พร้อมส่งงานจากอู่เรือ Chantiers de l'Atlantique ในฝรั่งเศส อู่เรือ Meyer Werft ก็เพิ่งจบงานส่งเรือ Iona ของบริษัท P&O ไปเมือง Bremerhaven และในขณะเดียวกันก็เริ่มปิดงานต่ออีกครั้งด้วยกำลังคนที่ลดลงและมาตรการป้องกันมากมาย อู่เรือ Shipyard De Hoop ในเนเธอร์แลนด์เพิ่งย้ายเรือ Silver Origin ของบริษัท Silversea Cruises เข้าสู่ระยะสุดท้ายของการต่อเรือก่อนทดสอบเดินเรือและส่งมอบตามกำหนดในฤดูใบไม้ผลิปีนี้ แต่ก็จำต้องเลื่อนกำหนดส่งมองเรือต่อใหม่อีกสองลำในปี 2020 นี้ออกไปก่อน
ที่จีน ซึ่งเป็นแหล่งรวมอู่ต่อเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลกและต้องทนลำบากนานแรมเดือนในฝ่าฟันการระบาดของไวรัส ขณะนี้เริ่มกลับมาทำงานได้บ้างแล้ว บริษัท China State Shipbuilding Corp. (CSSC) ได้ระดมทุนราว 718 ล้านดอลลาร์เมื่อต้นเดือนมีนาคมโดยการขายหนี้ระยะสั้นเพื่อฟื้นฟูโรงงาน และเริ่มกลับมาทำงานตามปกติ วันที่ 19/03/2020 บริษัท Merchants Heavy Industries (CMHI) ได้เปิดตัวเรือ Ocean Victory ซึ่งเป็นเรือสำรวจลำใหม่ล่าสุดในซีรีย์ SunStone Ships และในงานเดียวกันนี้ ทางบริษัทยังเปิดฤกษ์ตัดเหล็กเริ่มงานต่อเรือใหม่ที่ชื่อว่า Sylvia Earle
ผลกระทบในระยะยาวจะมีตามมาอย่างแน่นอน ทุกคนในอุตสาหกรรมขนส่งทางเรือเตรียมตัวรอได้เลย
แปลและเรียบเรียงจาก