นายกมอริเชียสกุมขมับ จะยาพาราหรือยาผีบอกอะไรก็ได้ ‘เราไม่เคยเจอวิกฤตรุนแรงเท่านี้มาก่อน’
ตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ก่อน นายกรัฐมนตรี ปราวองด์ ฌูนโยธ (Pravind Jugnauth) ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินอันเนื่องจากเหตุน้ำมันรั่วจากเรือบัลก์วาคาชิโอะ (Wakashio) ที่มาเกยตื้นตรงปอนเต เดอนี (Pointe d'Esny) พื้นที่ชุ่มน้ำทางชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้
จุดเกิดเหตุนี้อยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติทางทะเลบลูเบย์ (Blue Bay Marine Park) และชายหาดซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม
เหตุการณ์นี้เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดให้กับคนในประเทศราว 1.3 ล้านคน เพราะพวกเขาพึ่งพาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นหลัก และช่วงนี้ก็โดนพิษโควิดเล่นงานจนย่ำแย่อยู่แล้ว
เรือวาคาชิโอะมีขนาดบรรทุกประมาณ 200,000 DWT เกยตื้นตั้งแต่ 25/07/2020 ซึ่ง ณ ตอนนั้นยามชายฝั่งของมอริเชียสไม่ได้รับสัญญาณอับจน (distress call) จากเรือ ซึ่งจุดที่เรือประสบเหตุนี้อยู่บนเส้นทางขนส่งหลักในมหาสมุรอินเดียและมักเป็นจุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งอยู่แล้ว
เรือกำลังเดินทางจากจีนมุ่งหน้าสู่บราซิล โดยบนเรือไม่ได้บรรทุกสินค้าใด ๆ แต่มีน้ำมันอยู่ราว 4,000 ตัน
ในส่วนของรายละเอียดว่าเรือเกิดเหตุได้อย่างไรยังไม่ทราบชัด ต้องรอการสืบสวนอย่างละเอียดต่อไป แต่มีรายงานเบื้องต้นว่าเกิดจากสภาพอากาศและทะเลที่เลวร้าย
ทีมช่วยเหลือกู้เรือเข้าถึงเรือได้อย่างยากลำบากและไม่สามารถประเมินสถานการณ์ได้อย่างถี่ถ้วน แต่อย่างไรก็ตาม มีน้ำไหลเข้าตัวเรือและลูกเรือช่วยกันสูบเก็บไว้ในแทงก์บนเรือเพื่อป้องกันมลพิษทางทะเลที่อาจเกิดขึ้น
ตอนที่เรือเกยตื้นยังไม่พบรอยแยกที่ตัวเรือแต่อย่างใด แต่คาดว่าเพราะคลื่นทะเลรุนแรงจนตัวการที่ทำให้เกิดเหตุเช่นนี้
เมื่อพบรายงานน้ำมันรั่ว ทางบริษัทเจ้าของเรือรีบดำเนินการรับผิดชอบอย่างเต็มที่ มีการอพยพลูกเรือขึ้นจากเรือเพื่อความปลอดภัย ซึ่งทั้งทีมช่วยเหลือและคนที่ถูกช่วยล้วนต้องผ่านเกณฑ์คัดกรองโควิด-19 กลายเป็นว่าการดำเนินการเป็นไปด้วยความยากมากยิ่งขึ้น
ด้านรัฐบาลมอริเชียสมีแผนจัดการกับการรั่วไหลของน้ำมันลงทะเลอยู่เหมือนกัน แต่อุปกรณ์ที่มีกลับเพียงพอที่จะจัดการน้ำมันในปริมาณไม่เกิน 10 ตัน หากมากกว่านี้จำต้องขอความช่วยเหลือจากนานาประเทศในแถบมหาสมุทรอินเดีย
ได้มีฝรั่งเศสยื่นมือให้ความช่วยเหลือเข้ามาอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งกำลังคนและอุปกรณ์ที่จำเป็นมาให้แล้ว และยังคงมีความช่วยเหลือทยอยเดินทางมาสนับสนุนการกู้วิกฤตครั้งนี้อีกมากจากหลายที่มา
ขณะเดียวกัน ชาวบ้านในพื้นที่และอาสาสมัครได้ช่วยกันลงแรงเท่าที่พอทำได้เพื่อช่วยเหลือสัตว์ต่าง ๆ ตามชายฝั่งที่ได้รับผลกระทบ
ต้องรอตามความคืบหน้าสถานการณ์อีกครั้งว่าเป็นอย่างไร เบื้องต้นมีการนำทุ่นทะเลทำแนวกั้นน้ำมันรอบบริเวณเรือและบริเวณทางเข้าสู่อุทยานแห่งนี้แล้ว
อ้างอิง
- https://www.maritime-executive.com/article/grounded-bulker-creates-environmental-disaster-in-mauritius
- https://www.japantimes.co.jp/news/2020/08/08/world/crime-legal-world/mauritius-ship-spill-fuel/
- https://www.maritime-executive.com/article/international-aid-for-mauritius-with-bulker-environmental-disaster
- https://www.maritime-executive.com/article/bulk-carrier-aground-in-environmentally-sensitive-area-off-mauritius
- https://www.thairath.co.th/news/foreign/1906603
- https://www.maritime-executive.com/article/global-response-to-mauritius-oil-spill-continues