หากเลือกได้ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น สถิติการฆ่าตัวตายของคนเรือที่ถูกมองข้าม
จากบ้านและครอบครัวยาวนาน
ธรรมชาติของงานที่สุ่มเสี่ยงและอันตรายกลางทะเล
งานหนัก ความรับผิดชอบสูง ต้องมีสติโฟกัสขั้นสุดตลอดการปฏิบัติหน้าที่ และ…
โควิด-19
เหล่านี้ และที่ไม่ได้เอ่ยถึงอีกมากมาย ล้วนสร้างความเครียดโดยตรงต่อกายและใจ บางคนเครียดหนักจนไร้ทางออกและเลือกจบชีวิตตัวเองในที่สุด
องค์กรการกุศล Seafarers UK ผู้คอยดูแลความเป็นอยู่ที่ดีให้เหล่ากะลาสีทั่วโลกได้ออกมาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการรายงานการเสียชีวิตของลูกเรือที่มาจากการฆ่าตัวตาย เพราะรายงานฉบับก่อนหน้านั้นมีตัวเลขที่คลาดเคลื่อนและขาดความน่าเชื่อถือ
ที่ต้องยกเอาประเด็นนี้ขึ้นมา เพราะว่าช่วงนี้มีกะลาสีจำนวนมากติดแหง็กอยู่บนเรือ
บ้างถูกบังคับให้ทำงานต่อทั้งสัญญาหมดลงแล้ว
เรียกว่าความเครียดสะสมเพิ่มวันต่อวันเลย
จนสุดท้ายมีรายงานว่าตัวเลขกะลาสีเลือกจบชีวิตตนเองเพิ่มสูงขึ้น
สาเหตุหนึ่งที่ไม่เคยมีการเก็บสถิตินี้อย่างถูกต้องน่าจะเพราะว่าการฆ่าตัวตายไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขการรับประกันของสมาคม P&I Club ( Protection and Indemnity Club) และบางกรณี การฆ่าตัวตายถูกสรุปอย่างผิด ๆ ว่าเป็นอุบัติเหตุไป
Seafarers UK เชื่อว่าในช่วงสถานการณ์แบบนี้สุขภาพของลูกเรือถูกละเลย โดยเฉพาะสุขภาพทางใจ เพราะไม่ใช่เพียงลูกเรือมาเหยียบแผ่นดินไม่ได้ แม้แต่บาทหลวงและเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ที่จะเข้าไปพูดคุยกับลูกเรือเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านจิตใจก็ไม่สามารถลงเรือไปทำหน้าที่ได้ อีกทั้งการเข้าถึงสื่อสารอย่างอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ไม่ได้ทั่วถึง ทำให้ไม่สามารถติดต่อพูดคุยกับครอบครัวและเพื่อนที่ไว้วางใจได้
การได้รู้ถึงตัวเลข ระดับความรุนแรงของปัญหา และรูปแบบการเกิดเหตุ จะทำให้จัดวางแนวทางป้องกันและให้การสนับสนุนที่ตรงจุดได้
ทั้งนี้เพื่อปกป้องชีวิตของเหล่าพี่น้องชาวเรือจากการสูญเสีย
อ้างอิง