Ship Expert ขอเล่า ชีวิตอีกมุมของนักเดินเรือ (ช่วงโควิด) พวกเราไม่ลืมกัน
ธันวาคมปีที่แล้ว ในวันธรรมดา ๆ วันหนึ่ง กัปตันหนุ่มชาวอินเดียวัย 25 ขวบปีและลูกเรืออีกทั้งหมด 6 คนเริ่มต้นการเดินทางไปกับเรือบรรทุกน้ำมัน China Dawn ตามสัญญาจ้างงานที่เห็นชอบร่วมกันทั้งนายจ้างและผู้ถูกจ้าง ปักหมุดจุดหมายไว้ที่เมืองท่าเอลิซาเบธ (Port Elizabeth) ทวีปแอฟริกาใต้
เรือออกจากท่าเรือในประเทศออสเตรเลีย และกำลังจะถึงท่าเรือปลายทางในตอนกลางเดือนมีนาคม กัปตันและลูกเรือทุกคนรู้สึกผ่อนคลาย หัวใจโบยบินพร้อมเหินฟ้ากลับบ้านสู่ครอบครัว แต่ว่า…
4 วันก่อนเรือเข้าสู่ท่าเรือเอลิซาเบธ ประเทศแอฟริกาใต้ห้ามกะลาสีทุกคนเข้าสู่ประเทศ และสามวันต่อมาประเทศอินเดียอันเป็นแผ่นดินเกิดประกาศล็อกดาวน์และยกเลิกเที่ยวบินเข้า-ออกทุกไฟลท์
...โควิด-19 เป็นเหตุ...
ทางบริษัทต้นทางได้พยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แต่ก็มืดแปดด้านเช่นกัน ผลสุดท้ายกลายเป็นกัปตันและลูกเรือชุดเดิมต้องนำเรือไปจุดหมายต่อไปที่บราซิลเพราะมีสินค้าต้องโหลดขึ้นจากเรือ และที่บราซิล ทุกคนบนเรือต้องผวาอีกครั้ง เพราะเมื่อมองจากเรือแล้วเห็นว่าคนงานบนท่าเรือทำงานโดยไร้ผ้าปิดปากและไม่ทำโซเชียลดิสแทนซิ่ง
กัปตันเรือแสดงสปิริตอย่างแรงกล้าในการปกป้องลูกเรือโดยปฏิเสธไม่ให้คนงานขึ้นเรือ แต่สุดท้ายเรื่องก็ผ่านไปด้วยดี มีการเจรจาให้เจ้าหน้าที่แปดคนต้องสวมหน้ากากและถุงมือสามารถขึ้นมาทำงานบนเรือในการโหลดสินค้า แต่ถึงอย่างนั้นกัปตันยังกังวลว่าเชื้อโควิดอาจติดมากับคนที่ขึ้นมาอยู่ดี จนทำให้ต้องคอยตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายทุกคนบนเรือทุกวัน
การเดินทางของพวกเขายังไม่จบง่าย ๆ จุดหมายต่อไปคือสิงคโปร์ แต่ครั้งนี้กัปตันร้องขอให้มีการเปลี่ยนจุดหมายไปที่อินเดีย
กัปตันเห็นว่าลูกเรือเผชิญกับความเครียดกับชั่วโมงการทำงานที่ยาวนานมากเกินไปแล้ว แถมนี่ก็เป็นการทำงานเกินสัญญาจ้างในตอนแรก สภาพจิตใจย่ำแย่สุด ๆ หากฝืนต่อไปอาจเกิดอันตรายที่ไม่คาดคิด ในบทสัมภาษณ์กับสื่อรายหนึ่ง กัปตันถึงกับตัดพ้อว่า “พวกเราจะทนต่อไปได้อีกนานแค่ไหนกัน ทุกคนห่วงแต่สินค้าแล้วคนบนเรือล่ะ ทุกคนพูดถึงแต่หมอ ทหาร และตำรวจ แต่ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะรู้ว่าพวกเรามีตัวตนนะ”
การร้องขอจากกัปตันถึงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกินเวลา 48 ชั่วโมง และมันเป็นผลสำเร็จดังหวัง ตกลงว่าเรือเปลี่ยนจุดหมายไปที่อินเดีย โดยมีกำหนดถึงเมืองโกชิ (Kochi) ในวันพฤหัสที่ 14/05/2020 และตามมาตรการของอินเดีย ทุกคนต้องถูกกักตัวต่ออีก 4 สัปดาห์และรอตรวจตามขั้นตอนอีก 3 วันก่อนได้กลับบ้านจริง ๆ
แม้จะเหมือนถูกขังต่ออีกเป็นเดือน แต่นี่ก็ทำให้พวกเขารู้สึกใกล้บ้านมากกว่าต้องรอนแรมกลางทะเลต่อไปด้วยความเหนื่อยหน่ายทางจิตใจ
นี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของกลุ่มคนที่เปรียบเหมือนเส้นเลือดหล่อเลี้ยงคนทั้งโลก กลุ่มคนจำนวนน้อยกว่า 2 ล้านคนที่ทำหน้าที่เคลื่อนสินค้าให้กับคนหลายพันล้านคน
ยังมีเพื่อน ๆ กะลาสีอีกมากมายที่ประสบปัญหาคล้าย ๆ กันนี้ ขอเป็นกำลังใจด้วยการบอกเล่าเรื่องราวให้ผู้ที่ไม่เคยรู้ได้รับรู้
หวังว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับคนเรือจะหาทางให้ความช่วยเหลือกะลาสีที่ติดอยู่กลางทะเลให้ได้กลับบ้านในเร็ววัน
อ้างอิง
- https://splash247.com/crew-of-diverted-tanker-will-face-one-months-quarantine-before-they-can-get-home/
- https://splash247.com/master-diverts-singapore-bound-aframax-to-india-citing-mental-strain-from-prolonged-working-hours/
- https://www.scmp.com/magazines/post-magazine/long-reads/article/3082297/prisoners-sea-stuck-board-cargo-ships-crews-find